~~ ผลประโยชน์ทับซ้อน (ConflictOf Interests)
ผลประโยชน์ทับซ้อน หรือความขัดแย้งกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม (Conflict of interest : COI) เป็นประเด็นปัญหาทางการบริหารภาครัฐในปัจจุบันที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาการทุจริตประพฤติ มิชอบในระดับที่รุนแรงขึ้น และยังสะท้อนปัญหาการขาดหลักธรรมาภิบาลและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ของหน่วยงานราชการ และองค์กรต่างๆของประเทศไทย
สาเหตุของปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน
ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดจากการพัฒนาการทางการเมืองไทยเปลี่ยนไป จากเดิมที่นักการเมืองและ นักธุรกิจเป็นบุคคลคนละกลุ่มกัน กล่าวคือในอดีต นักธุรกิจต้องพึ่งพิงนักการเมือง เพื่อให้นักการเมืองช่วยเหลือสนับสนุนธุรกิจของตน ซึ่งในบางครั้งสิ่งที่นักธุรกิจต้องการนั้น มิได้รับการตอบสนองจากนักการเมืองทุกครั้งเสมอไป นักธุรกิจก็ต้องจ่ายเงินจำนวนมากแก่นักการเมือง ในปัจจุบันนักธุรกิจจึงใช้วิธีการเข้ามาเล่นการเมืองเองเพื่อให้ตนเองสามารถเข้ามาเป็นผู้กำหนดนโยบายและออกกฎเกณฑ์ต่างๆ ในสังคมได้ และที่สำคัญคือทำให้ข้าราชการต่างๆ ต้องปฏิบัติตามคาสั่ง
ผลประโยชน์ทับซ้อน ภาษาไทยใช้อยู่ ๓ อย่าง
๑. ความขัดแย้งกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
๒. ผลประโยชน์ทับซ้อน
๓. ผลประโยชน์ขัดกัน
การกระทำที่อยู่ในข่าย Conflict of Interests ความหมาย
รับผลประโยชน์ (Accepting Benefits)คือ การรับสินบนหรือรับของขวัญ เช่น เป็นเจ้าพนักงานสรรพากรแล้วรับเงินจากผู้มา เสียภาษี หรือเป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้อแล้วไปรับไม้กอล์ฟจากร้านค้า เป็นต้น
ใช้อิทธิพล (Influence Peddling)เป็นการเรียกผลตอบแทนในการใช้อิทธิพลในตำแหน่งหน้าที่เพื่อส่งผล
ที่เป็นคุณแก่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งอย่างไม่เป็นธรรม
ใช้ทรัพย์สินของนายจ้างเพื่อประโยชน์ส่วนตน (Using employer’s property for private advantage)ได้แก่ การใช้รถราชการ หรือใช้คอมพิวเตอร์ของราชการทางานส่วนตัว เป็นต้น
ใช้ข้อมูลลับของราชการ (Using confidential information)เช่น รู้ว่าราชการจะตัดถนน แล้วรีบชิงไปซื้อที่ดักหน้าไว้ก่อน
รับงานนอก (Outside employment or moonlighting)ได้แก่ การเปิดบริษัทหากินซ้อนบริษัทที่ตนเองทำงาน เช่น เป็นพนักงานขายแอบเอาสินค้าตัวเองมาขายแข่ง หรือเช่นนักบัญชีที่รับงานส่วนตัวจนไม่มีเวลาทำงานบัญชีในหน้าที่ให้ราชการ
ทำงานหลังออกจากตำแหน่ง (Post Employment) เป็นการไปทำงานให้ผู้อื่นหลังออกจากงานเดิม โดยใช้ความรู้หรืออิทธิพลที่เดิมมาชิงงาน หรือเอาประโยชน์โดยไม่ชอบธรรม เช่น เอาความรู้ในนโยบาย และแผนของธนาคารชาติไปช่วยธนาคารเอกชนหลังเกษียณ
ประเภทของผลประโยชน์ทับซ้อน
การใช้ตำแหน่งไปดำเนินการเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจของตนเองโดยตรง
ใช้ตำแหน่งไปช่วยเหลือญาติสนิทมิตรสหาย
การรับผลประโยชน์โดยตรง
การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์โดยใช้ตำแหน่งหน้าที่การงาน
การนำทรัพย์สินของหน่วยงานไปใช้ส่วนตัว
การนำข้อมูลอันเป็นความลับของหน่วยงานมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว
การทำงานอีกแห่งหนึ่ง ที่ขัดแย้งกับแห่งเดิม
ผลประโยชน์ทับซ้อนจากการเปลี่ยนสถานที่ทำงาน
การปิดบังความผิด
ตัวอย่างประโยชน์ทับซ้อน
หาประโยชน์ให้ตนเอง
รับประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่
ใช้อิทธิพลเรียกผลตอบแทน
ใช้ทรัพย์สินของนายจ้างเพื่อประโยชน์ของตน
ใช้ข้อมูลความลับ เพื่อแสวงประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
รับงานนอก แล้วส่งผลเสียให้งานในหน้าที่
ทำงานหลังออกจากตำแหน่งและเอื้อประโยชน์ต่อบริษัท
การให้ของขวัญ ของกำนัล เพื่อหวังความก้าวหน้า
ให้ทิปพนักงานโรงแรมเพื่อหวังการบริการที่ดีกว่าลูกค้ารายอื่น
ช่วยให้ญาติมิตรทำงานในหน่วยที่ตนมีอำนาจ
ชื้อขายตำแหน่ง จ่ายผลประโยชน์ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของตน
รูปแบบของประโยชน์ทับซ้อน
การรับผลประโยชน์ต่างๆ (Accepting Benefit)
การทำธุรกิจกับตัวเอง (Self-dealing) หรือการเป็นคู่สัญญา
การทำงานหลังเกษียณ (Post-employment)
การทำงานพิเศษ (Outside employment or moonlighting)
การใช้ข้อมูลภายใน (Inside information)
การนำโครงการสาธารณะลงในเขตเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ในทางการเมือง (Pork-barreling)
การรับประโยชน์ต่างๆ
การรับของขวัญจากบริษัทต่างๆ
บริษัทสนับสนุนค่าเดินทางไปดูงานต่างประเทศ
หน่วยราชการรับเงินบริจาคจากธุรกิจที่เป็นลูกค้าของหน่วยงาน
ได้รับของแถมหรือผลประโยชน์อื่นใดจากการจัดชื้อจัดจ้าง
การที่คณะกรรมการกู้เงินจากสถาบันการเงินในการกำกับดูแล
การที่คณะกรรมการฝากญาติพี่น้องหรือคนที่คุ้นเคยเข้าทำงานในรัฐวิสาหกิจที่ตนกำกับดูแลอยู่
ประโยชน์อันคำนวณเป็นเงินได้
การปลดหนี้หรือการลดหนี้ให้เปล่า
การให้ยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ย
การเข้าค้ำประกันโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม
การให้ค่านายหน้าหรือค่าธรรมเนียมการเป็นตัวแทน
การขาย การให้เช่าชื้อทรัพย์สิน เกินมูลค่าที่เป็นจริงตามที่ปรากฏเห็นในท้องตลาด
การใช้สถานที่ ยานพาหนะ หรือทรัพย์สิน โดยไม่คิดค่าเช่าหรือค่าบริการน้อยกว่าที่คิดกับบุคคลอื่น
โดยปกติทางการค้า
การให้ใช้บริการโดยไม่คิดค่าบริการ หรือคิดค่าใช้บริการน้อยกว่าที่คิดกับบุคคลอื่น โดยปกติทางการค้า
การให้ส่วนลดในสินค้า หรือทรัพย์สินที่จาหน่าย โดยการให้ส่วนลดมากกว่าที่ให้กับบุคคลอื่น โดยปกติ
ทางการค้า
การให้เดินทาง หรือขนส่งบุคคล หรือสิ่งของโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือคิดค่าใช้จ่ายน้อยกว่าบุคคลอื่น
โดยปกติทางการค้า
การจัดเลี้ยง การจัดมหรสพ หรือการบันเทิงอื่น ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือคิดค่าใช้จ่ายน้อยกว่าที่คิดกับ
บุคคลอื่น โดยปกติทางการค้า
ข้าราชการประจำ
กิจกรรมที่มีความเสี่ยง
การรับผลประโยชน์หรือการเรียกร้องสิ่งตอบแทนจากการปฏิบัติงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ
การรับงานนอกหรือการทำธุรกิจที่เบียดบังเวลาราชการ/งานโดยรวมของหน่วยงาน
การทำงานหลังเกษียณให้กับหน่วยงานที่มีผลประโยชน์ขัดกับหน่วยงานต้นสังกัดเดิม
การนำรถราชการไปใช้ในกิจธุระส่วนตัวและในหลายกรณีมีการเบิกค่าน้ำมันด้วย
การนำบุคลากรของหน่วยงานไปใช้เพื่อการส่วนตัว
การรับงานจากภายนอกจนกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ประจำ
การใช้สิทธิในการเบิกจ่ายยาให้แก่ญาติแล้วนำยาไปใช้ที่คลีนิคส่วนตัว
การรับประโยชน์จากระบบการล็อคบัตรคิวให้แก่เจ้าหน้าที่หรือญาติเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน
กลุ่มวิชาชีพที่เกี่ยวกับการ ตรวจสอบ ประเมินราคาและการจัดซื้อจัดจ้าง
การกำหนดมาตรฐาน (Specification) ในสินค้าที่จะจัดซื้อจัดจ้างให้บริษัทของตนหรือของพวกพ้อง
ได้เปรียบหรือชนะในการประมูล
การให้ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างแก่พรรคพวก/ญาติ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในการประมูลหรือการ
จ้างเหมา รวมถึงการปกปิดข้อมูล เช่น การปิดประกาศหรือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารล่าช้าหรือพ้น
กำหนดการยื่นใบเสนอราคา เป็นต้น
ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด
โดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๓ (มาตรา ๑๐๓)
ข้อ ๕ เจ้าหน้าที่ของรัฐจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาได้ดังต่อไปนี้
(๑) จากญาติ ซึ่งให้โดยเสน่หาตามจำนวนที่เหมาะสมตามฐานานุรูป
(๒) จากบุคคลอื่นราคาหรือมูลค่าในการรับจากแต่ละบุคคล แต่ละโอกาสไม่เกินสามพันบาท
การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นที่มีมูลค่าเกินกว่า ๓,๐๐๐ บาท โดยมีความจำเป็นต้องรับเพื่อรักษาไมตรี มิตรภาพ ต้องแจ้งผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานโดยทันทีที่สามารถกระทำได้
หากมีความจำเป็นต้องรับเพราะเพื่อรักษาไมตรี...จะทำอย่างไร
แจ้งผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนราชการ วินิจฉัย
มีเหตุผล รับได้ -รับไว้
ไม่เหตุควรรับ -ส่งคืน ส่งคืนไม่ได้ มอบให้ส่วนราชการ
แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน
การกำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตในตำแหน่ง
การมีประมวลจริยธรรมและการห้ามผลประโยชน์ทับซ้อน
การแสดงบัญชีทรัพย์และหนี้สิน
การใช้หลักโปร่งใสในการใช้อำนาจ
แนวทางการปฏิบัติตนของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
หลักนิติธรรม
หลักคุณธรรม
หลักความโปร่งใส
หลักการมีส่วนร่วม
หลักความรับผิดชอบ
หลักความคุ้มค่า
หลักธรรมาภิบาล และหลักคุณธรรม จริยธรรมในการปฏิบัติงาน แนวทางการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ANTI CORRUPTION)
หลักธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กร (Good Governance) หลักคุณธรรม จริยธรรม ในการปฏิบัติงาน
การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
ธรรมาภิบาล จะมีคำว่า integrity ค่านิยมของข้าราชการ I am ready
I = Integrity มีศักดิ์ศรี (ยึดมั่นในความถูกต้อง สุจริต เที่ยงธรรม)
A = Activeness ขยันตั้งใจทำงาน (บริการ/แก้ไขปัญหา ปชช.)
M = Morality มีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม
R = Relevance รู้ทันโลก ปรับตัวทันโลก ตรงกับสังคม
E = Efficiency มุ่งเน้นประสิทธิภาพ (คุณภาพ ดัชนี ประเมินผล)
A = Accountability รับผิดชอบต่อผลงาน ประชาชน
D = Democracy มีใจ/การกระทำเป็น ประชาธิปไตย (มีส่วนร่วม โปร่งใส)
Y = Yield มีผลงาน มุ่งเน้นผลงาน เพื่อประโยชน์สุข ของประชาชน
|